ถุงข้าวสาร ใช้แบบไหนดี?

อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่า เราจะทำถุงข้าวสารขนาดกี่กิโลกรัม ถ้าเป็นขนาด 1, 2 หรือ 5 กิโลกรัม มักจะนิยมใช้เป็นถุงพลาสติก แต่ถุงพลาสติกแบบไหนล่ะ? เพราะถุงพลาสติกก็มีตั้งหลายแบบ

ทีนี้คำถามถัดไปคือ อยากทำแบบสูญญากาศ หรือ ไม่สูญญากาศ อันนี้ก็แล้วแต่ผู้ผลิตข้าวเลยว่าอยากสูญญากาศหรือไม่สูญญากาศ ถ้าสูญญากาศ ข้าวก็จะเก็บได้นานกว่ามาก แต่ก็ต้องแรกกับขั้นตอนที่เพิ่มมาและทำได้ช้า ผู้ผลิตข้าวบางรายมีความเห็นว่า ถึงจะสูญญากาศไปข้าวเก็บได้นานกว่าก็จริง แต่ยังขายได้ราคาเดิม แล้วจะเพิ่มขั้นตอน เพิ่มค่าใช้จ่ายไปเพื่ออะไร แต่บางรายมีความเห็นว่า ข้าวสูญญากาศ เก็บไว้ได้นานกว่า เวลาส่งไปขายตามห้างหรือร้านค้า แม้จะขายออกช้าก็ไม่มีสินค้าตีคืน ดูแล้วคุ้มค่ากว่า
แต่บางรายสูญญากาศแล้วเพิ่มราคาได้ อันนั้นก็แล้วแต่นะครับ เพราะมีทั้งเพิ่มราคาได้และไม่ยอมเพิ่มราคา

ทีนี้มาดูว่ามีถุงแบบไหนให้เลือกบ้าง ถ้าไม่สูญญากาศ ถุงจะแบ่งออกเป็น 2 เกรด

ถุง PE และ LL

สีพิมพ์ชั้นนอกสุด ตัวนี้ข้อดีคือ ถูกสุด ขายเป็นกิโล เฉลี่ยนราคาต่อใบแล้วจะถูกที่สุด เหมาะกับร้านขายข้าวขนาดเล็ก ที่ตักข้าวชั่งกิโลขายหน้าร้านเลย แต่ตัวนี้ก็ยังมีข้อจำกัดคือ ไม่เหมาะกับการใส่ข้าวขายเป็นเวลาหลายๆเดือน เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ในขณะที่อากาศร้อน ข้าวจะมีการคลายน้ำมันออกมา แม้เราจะมองไม่เห็น แต่น้ำมันที่ออกมาจะไปดันให้สีที่พิมพ์อยู่ด้านนอกหลุดออกได้ หรือถ้าสีไม่หลุดเพราะน้ำมัน ก็อาจหลุดลอกบางส่วนจากการขูดขีดถูไถไปมา ถุงPEและLL จะนิยมพิมพ์ 1-3สี เพราะพิมพ์ได้เพียงตัวหนังสือและลายเส้น ไม่สามารถพิมพ์ภาพเสมือนจริงได้

ถุงลามิเนต

สีพิมพ์ระหว่างชั้นฟิล์ม ขายเป็นใบ ราคาจะขึ้นกับขนาดกว้าง ยาว และความหนาของฟิล์มที่ลูกค้ากำหนด ข้อดีคือ สีพิมพ์อยู่ระหว่างชั้นฟิล์ม ต่อให้อากาศร้อนขนาดไหน หรือถูไถ ขูดขีดด้วยมีดคัตเตอร์สีก็ไม่มีการหลุดลอก 100% ถุงตัวนี้ถ้าจะสุญญากาศข้าวสาร จะแนะนำฟิล์มที่ความหนาต่อด้าน 130 ไมครอนขึ้นไปจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากประหยัด ก็ไม่ควรหนาต่ำกว่า 125 ไมครอน แต่ถ้าไม่สุญญากาศ ก็สามารถทำบางๆได้ จะได้ราคาต่อใบที่ถูกลงมาก ข้อดีอีกอย่างของถุงลามิเนตก็คึือ สามารถพิมพ์ภาพเสมือนจริงได้ สามารถพิมพ์เงา พิมพ์ด้าน หรือด้านสลับเงาได้ เรียกได้ว่า ทำได้ทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ จะเจาะนิ้วสอด มือหิ้ว ติดซิป มีฐานกางออกตั้งได้ สามารถทำได้ทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ